บริษัท ซีเอ็ดยูเคชั่น จำกัด (มหาชน)

อาคารอินเตอร์ลิงค์ทาวเวอร์ ชั้น 19

08-6325-7000

24/7 Customer Support

Mon - Fri: 9:00 - 17:30

อีเมล: slc@se-ed.com

วิธีง่ายๆ ช่วยตัดสินใจ เมื่อลูกอยากมีสัตว์เลี้ย

     ดูเหมือนเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับหลายๆบ้านกันแล้วนะคะ  สำหรับครอบครัว หรือ คุณพ่อคุณแม่ที่มีลูกน้อยเมื่อถึงวัยหนึ่ง เขาก็อยากจะมีเพื่อนเป็นสัตว์เลี้ยงแสนน่ารักและอ้อนวอน ขอเลี้ยงสัตว์สักตัวขึ้นมา อาจเพราะเห็นเพื่อน ๆ มีสัตว์เลี้ยง หรือชื่นชอบความน่ารักของสัตว์เหล่านั้นก็ตาม  เราอยากบอกว่านี่เป็นเรื่องที่ดีนะคะ เพราะสัตว์สามารถส่งเสริมพัฒนาการหลายๆด้านที่ดีให้เด็ก ๆ ได้ แต่ที่สำคัญการเลี้ยงสัตว์ก็ต้องอาศัยความรับผิดชอบของเด็ก และคุณพ่อคุณแม่มากมายอยู่พอสมควรนะคะ มิเช่นนั้นสัตว์เลี้ยงแสนน่ารักก็อาจจะกลายเป็นภาระที่แสนหนักหน่วงได้เช่นกันค่ะ

     การได้ลงมือเลี้ยงสัตว์และให้เด็ก ๆ ได้สังเกตธรรมชาติ การเติบโตของสัตว์เหล่านั้นด้วยตนเอง ได้เห็นทั้งรูปร่าง ลักษณะ การเปลี่ยนแปลงต่าง ๆของสัตว์เลี้ยง จะช่วยส่งเสริมการเรียนรู้ของเด็กได้เป็นอย่างดี เขาจะได้รู้จักการเป็นที่พึ่งให้กับสัตว์เลี้ยงของเขา การให้ความรัก การดูแลเอาใจใส่ ความอดทน ความมีวินัย รวมถึงความรับผิดชอบที่แสนยิ่งใหญ่ในการได้ดูแลชีวิตของสัตว์เลี้ยงที่เขารัก ซึ่งสิ่งนี้เองจะสามารถส่งผลที่ดีต่อการใช้ชีวิตในอนาคตของลูกคุณได้ เพราะเขาจะรู้จักแบ่งปันเสียสละและดูแลผู้อื่น มีความอ่อนโยน  รู้จักความเมตตา รู้จักให้อภัยผู้อื่น  อย่างไรก็ตาม การที่จะเลี้ยงสัตว์ สักตัวไว้ในบ้าน  นั้นอาจเป็นเรื่องที่ต้องคิดคำนึงให้มากสักหน่อยนะคะ เพราะต้องอาศัยความพร้อมหลายๆด้าน  

เราจึงมีแนวทาง 3 ข้อง่ายๆมาให้คุณพ่อคุณแม่ได้ลองพิจารณา เพื่อเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจ มอบสัตว์เลี้ยงให้ลูกของคุณได้ดูแล ดังนี้ 

  1. เลือกสัตว์ให้เหมาะกับลูกของคุณ

     โดยปกติแล้ว สำหรับเด็กๆนั้น เหมาะกับสัตว์เลี้ยงทั่วไป สุนัข แมว นก ปลา ฯลฯ ขึ้นอยู่กับสถานที่ ในการเลี้ยงดู ความชอบ และหน้าที่ที่เด็กๆ จะได้รับ แต่แนะนำให้เลี่ยงสัตว์ประเภท ฟันแทะ เช่นหนู หรือกระต่ายไปก่อน เพราะหากจับไม่ดีอาจถูกกัดได้ และที่สำคัญสัตว์กลุ่มนี้มักจะตกใจง่ายและตายได้ง่ายมาก  นอกจากนี้คุณพ่อคุณแม่ยังควรศึกษา ช่วงวัย สายพันธุ์และเพศของสัตว์เลี้ยงก่อนจะดีมากค่ะ เพราะธรรมชาติของสัตว์เลี้ยงแต่ละประเภท อาจแตกต่างกัน เช่นสุนัขบางสายพันธุ์ก็ไม่ชอบเด็กๆ หรือสัตว์ที่ยังเล็กเกินไปอาจยังไม่รู้จักยั้งกำลังของตัวเอง จนอาจทำให้เล่นกับเด็กๆ แรงเกินไปได้ ทำให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นมาได้ทั้งกับสัตว์เลี้ยงและลูกน้อยของคุณ

  1. ความพร้อมและความรับผิดชอบ

     คุณพ่อคุณแม่ควรตรวจเช็คให้แน่ใจว่าเด็กๆ มีความพร้อมทั้งด้านร่างกายและจิตใจ ที่จะเลี้ยงสัตว์เหล่านั้นโดย เริ่มจากตรวจร่างกายเด็กๆ ให้แน่ใจว่าไม่แพ้ขนสัตว์ชนิดนั้นๆ  สอนลูกให้เข้าใจวิธีการดูแลสัตว์ เช่นสอนวิธีการอุ้ม การให้อาหารอย่างถูกต้อง  รวมถึงทำการตกลงมอบหมายหน้าที่ความรับผิดชอบให้เด็กๆ เช่น ให้เขามีหน้าที่พาสัตว์เลี้ยงไปเดินเล่น หรือคอยให้อาหาร และสามารถจัดการกับอึและฉี่ของสัตว์เลี้ยงได้ เป็นต้น หากพวกเด็กทำได้ ก็จะเป็นการฝึกวินัยให้พวกเขาไปในตัวได้เป็นอย่างดีเลยล่ะค่ะ

 

  1. เวลาและความรักความเอาใจใส่

     ข้อนี้ถือว่าสำคัญมากๆเลยนะคะ เพราะการเลี้ยงสัตว์ก็เหมือนกับการที่เรารับอีกชีวิตหนึ่งมาดูแล  ก่อนที่คุณพ่อคุณแม่จะอนุญาตให้เด็ก ๆ เลี้ยงสัตว์ จึงต้องพูดคุยกับเด็ก ๆ ให้แน่ใจว่าพวกเขาพร้อมแล้วจริงๆหรือเปล่า พร้อมที่จะให้ความรัก ความเอาใจใส่ การดูแล เพราะหากเลี้ยงแล้วรู้สึกเบื่อ รู้สึกว่าพวกมันเป็นภาระ หรือ ไม่มีเวลาดูแลพวกมัน นำสัตว์เหล่านั้นไปทิ้ง หรือปล่อยให้พวกมันทรมาน  แทนที่จะเป็นการปลูกฝังนิสัยด้านบวกให้เด็ก ๆ แต่อาจเป็นการสร้างผลลบให้กับเขาแทนก็ได้นะคะ ข้อนี้จึงต้องระวังให้มาก ๆ เลยค่ะ

     การจะมอบหมายให้ลูกรู้จักมอบความรัก และอ่อนโยนต่อสัตว์เลี้ยง คุณในฐานะพ่อและแม่ ต้องทำเป็นตัวอย่างที่ดีก่อน เพราะเด็กจะมองพฤติกรรมของคุณพ่อคุณแม่เป็นตัวอย่าง หากพ่อแม่มีความอ่อนโยน มอบความรักให้กับสัตว์เลี้ยงภายในบ้าน เด็กก็จะซึมซับสิ่งเหล่านี้ตามไปด้วย และจิตใจของเขาก็จะอ่อนโยน รู้จักมอบความรักให้คนอื่นเช่นกัน

     หากคุณพ่อคุณแม่สนใจ ต้องการปรึกษาหารือเกี่ยวกับการพัฒนาศักยภาพของลูกกับทีมคุณครูจาก SE-ED Learning Center  สามารถติดต่อได้ที่ Email: slc@se-ed.com

Messenger
Messenger